
Supavit Kumkoon (Vit) Senior Sound Engineer
วิทย์เคยทำงานฝั่งโปรดัคชั่นโดยเป็น Boomman ที่ฝึกถือไมค์บูมอยู่หนึ่งเดือนเต็ม ก่อนจะเปลี่ยนมาทำซาวนด์โฆษณาภายหลัง ประสบการณ์ทำให้วิทย์เข้าใจคนทำงานทั้งสองฝั่ง และยอมรับว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ในกองถ่ายเสมอ
ใจเขา ใจเรา
“ก่อนจะมาทำเสียงโฆษณาเราเคยเป็น Boomman ในกองโปรดักชั่น แล้วเคยมีเหตุการณ์หนึ่งพี่ที่เป็นคนอัดเสียงเล่าให้ฟังคือ Sound Engineer โทรมาด่าว่าทำไมอัดเสียงห่วยจัง ผมเลยเข้าใจทั้งสองฝ่าย บางคนไม่รู้ว่าโปรดักชั่นหน้างานมันนรกมาก บางทีถ่ายกลางถนน มันเกินความควบคุมของเราที่จะไปบอกให้คนดับเครื่องรถยนต์ หรือห้ามมอเตอร์ไซค์ไม่ให้ขี่เพราะเดี๋ยวเสียงเข้าไมค์ งานเลยเป็นสิ่งที่ทั้งฝั่ง Production และ Post-Production ต้องพึ่งพากัน ทาง Post-Production ไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่มีเสียงจากฝั่ง Production แต่เสียงที่อัดหน้ากองก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้เลยเหมือนกัน”
เก่ง (ทำ) อย่างเดียวไม่พอ
“ตอนเริ่มขายงานเองใหม่ๆ ผมคิดว่าแค่เก่งการใช้โปรแกรมก็น่าจะทำให้งานลุล่วงได้แล้ว ก็เลยโฟกัสอยู่กับตัวเอง อยู่แต่กับหน้าจอ ทำให้พลาดบางจุดที่คนอื่นในห้องพูด ทำให้เขาต้องพูดอีกรอบ
“แล้วมีงานหนึ่งเป็นงานของผู้กำกับรุ่นใหญ่ เป็นช่วงที่ขายงานแรกๆ ผมก็จดจ่ออยู่กับหน้าจอตัวเองเหมือนเดิม ในขณะที่เรากำลังทำอย่างหนึ่ง ผู้กำกับคิดไปอีกอย่างหนึ่งแล้ว จบงานปุ๊ปก็รู้สึกไม่โอเคเลย น่าจะทำได้ดีกว่านี้ อยากแก้ตัว เหตุการณ์นั้นสอนบทเรียนในการทำงานที่สำคัญมากๆ คือ เราต้องให้ความสนใจกับทุกคนในห้อง เพราะสุดท้ายเราไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทำงานกับทุกคน ทำงานกับความพอใจและการตัดสินใจของเขา”
เราต้องให้ความสนใจกับทุกคนในห้อง เพราะสุดท้ายเราไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทำงานกับทุกคน ทำงานกับความพอใจและการตัดสินใจของเขา
จิตวิทยาการเข้าใจคนอื่น
“เวลาทำงานกับคนใหม่ๆ เช่น ผู้กำกับที่ไม่เคยทำงานด้วยเลย เราจะทำการบ้านไปก่อน อาจจะลองดูจากผลงานเก่าๆ ของเขา ว่าเขามีมุมมองยังไง ทำหนังประมาณไหน หลายๆ ทีก็ผิดจากที่คิดไว้ ครั้งแรกมันเลยเป็นการทดลอง เป็นการทำความรู้จักกัน
“เรื่องที่ยากในการอ่านใจคนไม่ใช่เรื่องสไตล์งานที่เขาชอบ แต่คือเรื่องว่าเขาเป็นคนยังไงมากกว่า เพราะเขาเป็นยังไงเขาจะแสดงออกมาอย่างนั้น แสดงผ่านผลงาน พอเราตอบได้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน เราจะเข้าใจงานที่เขาทำมากขึ้น”